วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

สำรวจรายได้บริษัทนำเข้าสารเคมี หลังลือ “อ.ยักษ์” ถูกเด้งเซ่นต้าน 3 สารพิษ

$ข่าวสารเคมี ความรู้เคมี$ #6




     จากกรณีที่มีกระแสข่าวเด้ง นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อ.ยักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังเปิดศึกต้านการใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต, ควอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต นั้น
    ล่าสุดได้รับการยืนยันจากนายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ไม่เป็นความจริงพร้อมยืนยันว่า อ.ยักษ์ ยังทำงานตามปกติ
     ก่อนหน้านี้ อ.ยักษ์ ได้ลั่นวาจาว่า “ผมทำงานเดิมพันด้วยชีวิต ไม่ใช่ด้วยตำแหน่ง แผ่นดินต้องไร้สารพิษในพื้นที่เกษตรกร 4-5 ล้านไร่ กำหนดไว้ 5 ปีสิ้นสุดปี 2564” ซึ่งหากดูประวัติของ อ.ยักษ์ จะพบว่าเคยเป็นอดีตข้าราชการที่ผันตัวไปทำเกษตรอินทรีย์ตามศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั่นเอง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าอุดมการณ์ของ อ.ยักษ์ ที่จะผลักดันให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศหันมาทำเกษตรอินทรีย์นั้นมีมากขนาดไหน
     แน่นอนการประกาศยกเลิกใช้สารเคมีภัณฑ์เหล่านี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้าอย่างแน่นอน ซึ่ง Sanook! Money ได้รวบรวมบริษัทผู้นำเข้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ทางด้านเกษตรรายใหญ่ที่มีขนาดใกล้เคียงมาส่อง เพื่อดูรายได้-กำไรกัน
     บริษัท เจียไต๋ จำกัด (เครือ CP) แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2526 โดยมีนายจรัญ เจียรวนนท์, นายมนตรี เจียรวนนท์, นายธนินท์ เจียรวนนท์, นายวัลลภ เจียรวนนท์ และนายมิน เธียรวนนท์ เป็นคณะกรรมการ ดำเนินธุรกิจขายส่งปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้
ปี 2558 รายได้ 18,190 ล้านบาท กำไร 1,052 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 17,456 ล้านบาท กำไร 1,249 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 16,856 ล้านบาท กำไร 1,175 ล้านบาท
     บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2519 โดยมีนายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย, นายเคเรียล ริชาร์ด ทอร์นทันฐ นายเดชา พาณิชยพิเชฐ ,นายวิชชา สิมศิริ และนางศันสนี ไทยอารี เป็นคณะกรรมการ ดำเนินธุรกิจผลิตเคมีภัณฑ์อนินทรีย์ขั้นมูลฐานอื่นๆ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 7,396 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
ปี 2558 รายได้ 29,542 ล้านบาท กำไร 216 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 29,451 ล้านบาท ขาดทุน 1,658 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 31,517 ล้านบาท ขาดทุน 2,556 ล้านบาท
     บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด (เข้าซื้อ บริษัท มอนซานโต้ ไทยแลนด์ จำกัด บริษัทที่เกษตรกรคุ้นเคยกันดี) แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2505 โดยมีนายยิม พูน วาห์, นายไซ่ม่อน ทอร์สเทน วีบุช, นายริอาซ อลัม บัคช , นายเจมส์ แพทริค เคนเนลลีย์ และนางภารณี อดุลยพิเชฏฐ์ ดำเนินธุรกิจผลิตเคมีภัณฑ์อนินทรีย์ขั้นมูลฐานอื่นๆ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 465 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้
ปี 2558 รายได้ 24,043 ล้านบาท กำไร 1,990 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 7,370 ล้านบาท กำไร 253 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 8,195 ล้านบาท กำไร 185 ล้านบาท
     ซึ่งการประกาศยกเลิกใช้สารเคมี เป็นการลดทอนกำไรจากการค้าสารเคมีของบริษัทยักษ์ใหญ่และบริษัทอื่นๆที่มียอดขายรวมกัน 70,000 – 80,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว หลังจากนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทั้งบริษัทนายทุนที่นำเข้าเคมีภัณฑ์กับหน่วยงานรัฐจะหาจุดกึ่งกลางร่วมกันได้หรือไม่ หรือเราจะได้เห็นการเชือดเฉือนกันอย่างเข้มข้นที่อาจจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมถอยออกไป
                                                                                                                       ที่มา:sanook


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

12 สารเคมีในบ้านที่เราควรหลีกเลี่ยง

$ข่าวสารเคมี ความรู้เคมี$ #11      ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราใช้อยู่ในครัวเรือนนั้น มีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพ ...